ทำความรู้จักไส้กรองน้ำกันเถอะ

การเลือกไส้กรองน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญ ไส้กรองแต่ละชนิดมีหน้าที่ทำอะไร ช่วยแก้ปัญหาสภาพน้ำแบบไหน รวมถึงระยะเวลาที่ต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำแต่ละชนิดยาวนานแค่ไหน ไปทำความรู้จักกันครับ

ไส้กรองหยาบ PP Sediment
      ไส้กรองน้ำ PP ผลิตจาก Polypropylene พันกันเป็นทรงกระบอกอัดแน่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน ผิวด้านนอกไส้กรองมีลักษณะเรียบ นิยมใช้เป็นไส้กรองน้ำขั้นตอนแรกของการกรองน้ำ ทำหน้าที่กรองตะกอน สารแขวนลอยขนาดเล็ก เช่น ฝุ่นผง กรวด ทราย ตะกอนดิน

ไส้กรอง GAC (Granular Activated Carbon)
      ไส้กรองคาร์บอนชนิดเกล็ด บรรจุลงในกระบอกกรอง ทำหน้าที่ดักจับ สี กลิ่น สารอินทรีย์ สารพิษเช่นยาฆ่าแมลง และโลหะหนักบางชนิด จุดเด่นของไส้กรอง GAC คือสามารถดูดซับ กลิ่น สี คลอรีนได้ดี เหมาะสำหรับกรองน้ำที่ค่อนข้างมีกลิ่นแรง

ไส้กรอง CTO (Carbon Block)
      ไส้กรองคาร์บอนชนิดอัดแท่งเป็นทรงกระบอก หุ้มด้วยแผ่นกระดาษกรองตะกอนและตาข่ายพลาสติก ช่วยให้สามารถกรองสิ่งสกปรกได้ดี ดักจับกลิ่น สี คลอรีน สารพิษต่าง ๆ น้ำที่ผ่านการกรองมีความใสสะอาด ไม่มีกลิ่น

ไส้กรอง Resin
      ไส้กรองเรซิ่น กรองน้ำโดยใช้หลักการแลกเปลี่ยนประจุ โดยสารกรองเรซิ่นเป็นตัวกลางในการดูดจับสารละลาย จำพวกหินปูน (Ca และ Mg) แล้วปล่อยประจุที่เป็นโซเดียม (Na) กลับคืนสู่น้ำ ทำหน้าที่ในการกรองหินปูน ลดความกระด้างของน้ำ ช่วยให้น้ำมีความอ่อนนุ่ม รสชาติดียิ่งขึ้น

ไส้กรอง UF Membrane
      ไส้กรอง UF Membrane มีลักษณะเป็นเส้น พื้นผิวมีรูพรุน มีความละเอียดถึง 0.01 ไมครอน พื้นที่ในการกรองสูง สามารถกรองตะกอนขนาดเล็ก ฝุ่นผง รวมไปถึงเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงรักษาแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไว้

ไส้กรอง RO Membrane
       ไส้กรอง RO Membrane ผลิตจากวัสดุ Polyamide (PA) Food Grade มีลักษณะแผ่นเนื้อเยื่อม้วนเป็นชั้น ๆ รอบแกนแพลาสติก มีความละเอียดสูง 0.0001 ไมครอน สามารถกรองสิ่งสกปรกและสารละลายในน้ำได้ถึง 99% น้ำที่ผ่านการกรองมีความสะอาดและบริสุทธิ์ เรียกได้ว่าเป็นระบบการกรองน้ำที่สะอาดที่สุดในปัจจุบัน

ไส้กรอง Post Carbon
      ไส้กรอง Post Carbon นิยมใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการกรองน้ำ ช่วยดักจับกลิ่น สี สารพิษและโลหะหนักบางชนิดที่อาจหลุดรอดออกมา รวมทั้งช่วยปรับรสชาติน้ำให้อร่อยยิ่งขึ้น

หลอด UV (Ultra Violet)
      ระบบการฆ่าเชื้อโรคในน้ำที่ได้มาตรฐาน ช่วยฆ่าเชื้อโรคในน้ำให้คุณได้มั่นใจในความสะอาดของน้ำดื่มมากยิ่งขึ้น

ไส้กรอง Ceramic
       ไส้กรองเซรามิค มีความพรุนขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน สามารถกรองสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้หลุดปะปนมากับน้ำได้ จุดเด่นของไส้กรองเซรามิคคือ สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ โดยใช้แปรงหรือกระดาษทรายละเอียดขัดเบา ๆ ที่ผิวไส้กรองด้านนอก สามารถยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน 2-3 ปี

ไส้กรอง Mineral&Alkaline
      เป็นไส้กรองที่ประกอบไปด้วยหินแร่ธรรมชาติต่าง ๆ ทำหน้าที่เพิ่มแร่ธาตุที่มีประโยชน์ให้กับน้ำดื่ม ช่วยปรับสภาพน้ำให้มีค่าความเป็นด่างอ่อน ๆ ทำให้โมเลกุลของน้ำเล็กลง เหมาะสมแก่การดื่มมากยิ่งขึ้น

แล้วไส้กรองน้ำแต่ละชนิดมีอายุการใช้นานยาวนานเท่าไหร่ ?
ไส้กรองหยาบ PP Sediment ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 3-4 เดือน
ไส้กรอง GAC (Granular Activated Carbon) ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 6-9 เดือน
ไส้กรอง CTO (Carbon Block) ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 6-9 เดือน
ไส้กรอง Resin ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 6-12 เดือน
ไส้กรอง UF Membrane ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 12 เดือน
ไส้กรอง RO Membrane ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 12 เดือน
ไส้กรอง Post Carbon ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 6-12 เดือน
หลอด UV (Ultra Violet) อายุการใช้งานเฉลี่ยนอยู่ที่ 12-24 เดือน
ไส้กรอง Ceramic หากคอยทำความสะอาดไส้กรอง โดยใช้แปรงหรือกระดาษทรายละเอียดขัดเบา ๆ ที่ผิวไส้กรองด้านนอกจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน 2-3 ปี
ไส้กรอง Mineral&Alkaline ควรเปลี่ยนไส้กรองทุก ๆ 6-12 เดือน

ทั้งนี้ ระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรองเป็นการประมาณเท่านั้น อายุการใช้งานของไส้กรองจะขึ้นอยู่กับสภาพน้ำดิบ และปริมาณการใช้งานเป็นหลัก