เครื่องกรองน้ำใช้

เครื่องกรองน้ำใช้เหมาะกับใช้กรองน้ำทั้งประปาและบาดาลขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งาน บางครั้งน้ำประปาก็ไม่ได้สะอาดเสมอไปโดยเฉพาะประปานอกตัวเมืองจะมีค่าความกระด้างสูงหรือมีตะกอนมากจึงต้องจำเป็นใช้เครื่องกรองเพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ำ ส่วนถ้าใช้ในการกรองน้ำบาดาล การเลือกวิธีการกรองขึ้นอยู่กับสภาพน้ำแต่ละที่นั้นเป็นหลัก และต้องเลือกใช้วิธีการกรองให้เหมาะสม อย่างเช่น บางพื้นที่มีความกระด้างสูง บางที่มีสนิมเหล็กสูง เป็นต้น

วิธีพิจารณาเลือกเครื่องกรองน้ำใช้

ปกติแล้วเครื่องกรองน้ำใช้จะใช้วัสดุหลักๆอยู่ 2 แบบคือเป็นถังกรองน้ำไฟเบอร์ซึ่งได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเพราะราคาถูกกว่าและน้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาวนาน 10-15 ปี ส่วนอีกแบบนึงจะเป็นถังสแตนเลส ข้อดึคือจะมีความทนทานสูงอายุการใช้งาน 20-30 ปี แต่มีข้อเสียคือน้ำหนักมาก ตอนเปลี่ยนสารกรองจะลำบากในการเทสารกรองออกมา และ ช่วงข้อต่อแนวเชื่อมอาจมีการขึ้นสนิมได้ในระยะยาว ดังนั้นก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ

ขนาดของถังกรองไฟเบอรนั้นมีขนาดหลายชนิดตั้งแต่ 8 นิ้ว จนถึง 32 นิ้ว ส่วนใหญ่ทั่วไปจะใช้ที่ 8-12 นิ้ว

นอกจากตัวถังกรองแล้ว ยังมีชุดหัวกรอง มี 2 ชนิดคือ manual กับ auto digital control ใช้ไฟฟ้า

ปกติที่นิยมจะใช้แบบ Manual จะมี 2 แบบคือ แบบหัววาวล์คันโยก และ แบบมือหมุนพวงมาลัย

ถ้าเป็นแบบคันโยกจะใช้กับการกรองที่ไม่ต้องล้างสารกรองแบบ reactivated แค่ backwash อย่างเดียวเช่นสารกรองจำพวก Anthracite หรือ Carbon เป็นต้น

ถ้าเป็นแบบมือหมุนพวงมาลัย จะใช้สำหรับการกรองที่ต้องล้างสารกรอง ที่ต้องมีการ reactivaed หรือ ฟิ้นฟูสารกรองเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ อย่างเช้น เรซิ่น หรือ แมงกานิส

ต่อมาส่วนที่สำคัญที่สุดคือสารกรองจะแนะนำคร่าวๆ ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำดังนี้

หากเป็นการกรองสิ่งสกปรกทั่วไป เป็นน้ำประปาที่ไม่สะอาด มีตะกอนมาก น้ำมีสีขุ่นแดง ให้เลือกการกรองแบบ Anthracite และ Carbon ก็คงเพียงพอต่อการใช้งาน อาจจะเลือกการกรองแบบ mixed ผสมกันระหว่าง แอนทราไซท์ และ คาร์บอน ในถังเดียว

หากเป็นการกรองน้ำบาดาล น้ำจากผิวดิน ควรมีการตรวจสอบสภาพน้ำก่อนเป็นอันดับแรก โดยมาตรฐานทั่วไปจะใช้แบบ 3 ขั้นตอนคือ Anthracite / Carbon / Resin และ อาจจะมี Manganese

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้สนใจนะครับ หากต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำใช้สามารถสอบถามเพิ่มเติมเราได้นะครับ